สัญญาณเตือนว่าคุณควรต้องพบจิตแพทย์

สัญญาณเตือนว่าคุณควรต้องพบจิตแพทย์ ในสมัยนี้นั้นอาการป่วยทางจิตใจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคซึมเศร้า หรืออื่นๆ นั้นสามารถเกิดขึ้นได้อย่างง่ายได้ โรคเครียดก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่ไม่แปลกใจเลยที่จะพบเจอได้ง่ายสำหรับยุคสมัยนี้ที่มีการแข่งขันที่สูงขึ้น เพราะเรื่องของจิตใจและอารมณ์นั้นเป็นอะไรที่อธิบายได้ค่อนข้างยาก มีความละเอียดอ่อน และความซับซ้อนที่สูงเลยทีเดียว และการแสดงออกอย่างไม่มีเหตุผลบ้าง

อย่าง ทำให้หลายๆ คนนั้นอาจจะเสี่ยงที่จะมีอาการป่วยทางจิต เนื่องจากกำลังเผชิญหน้ากับเรื่องหนักๆ ในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของหน้าที่การงาน ความรัก ชีวิต การเรียน และอื่นๆ

การจำแนกโรคทางจิตเวชนั้นมีอยู่หลายหมวดหมู่ด้วยกัน ซึ่งนั้นก็ขึ้นอยู่กับอาการและสิ่งที่ต้องพบเจอของแต่ละบุคคลด้วย เช่น บางรายต้องพบกับการเสียใจที่หนักหน่วงจากการสูญเสียคนรักหรือคนใกล้ชิด บางคนต้องเครียดกับงานที่หาทางออกไม่ได้ หรือบางคนอาจจะได้รับแรงกดดันที่สะสมจากความสัมพันธ์ที่ไม่สมหวัง เป็นต้น ซึ่งมีหลายสาเหตุที่ทำให้คนเราในยุคปัจจุบันนั้นป่วยทางใจ และอาจจะมีผลกระทบที่ตามมานั้นคืออาการป่วยทางกายด้วย แต่ว่าเราจะรู้ได้อย่างไรกันละว่าอาการป่วยทางใจที่เราเป็นอยู่นั้น ไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มที่จะมีอาการ หรือจะเป็นมานานจนชินแล้วนั้น จะเข้าข่ายการเป็นโรคทางจิตเวช ที่ไม่ใช่เพียงแค่อารมณ์ผิดปกติชั่วครั้งคราว และควรที่จะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะสายเกินแก้

วันนี้เราจะมาบอก 7 สัญญาณเตือนที่อาจไม่ใช่แค่ความผิดปกติทางอารมณ์ทั่วไป แต่อาจเป็นสัญญาณของโรคทางจิตเวช เป็น 7 สัญญาณเตือนให้เรานั้นสำรวจตัวเองว่าเราควรที่จะต้องเข้าพบจิตแพทย์ หากปล่อยไว้อาจเป็นการไม่ดี การพบจิตแพทย์นั้นอาจจะเป็นเรื่องที่แปลกใหม่หรือดูผิดแปลกในความรู้สึกของคนไทย แต่สำหรับต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องที่ปกติมาก ปัญหาบางอย่างที่ไม่มีทางออกทำให้เราเกิดเครียดสะสมก็อาจทำให้เราป่วยได้ ดังนั้นการพบกับจิตแพทย์นั้นไม่ได้น่ากลัวเลย และในยุคปัจจุบันนั้นก็เริ่มมีคนเปิดใจกับอาการป่วยเหล่านี้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังมีคนมากมายที่เริ่มเข้าใจในอาการของผู้ที่ป่วยดังนั้นเรามาสำรวจตัวเองกันดีกว่า

1. อาการนอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป หรือมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินสองสัปดาห์

2. อยากแยกตัว อยากเก็บตัวอยู่เพียงคนเดียว อยู่ก็ไม่อยากทำสิ่งที่เคยชอบทำ ไม่อยากออกไปใช้ชีวิตตามปกติ ไม่อยากทำอะไร แม้กระทั่งการดูแลตัวเอง

3. มีอาการเจ็บป่วยทางกายแบบหาสาเหตุไม่ได้ เช่น อาการเบลอหรือเวียนหัว ปวดหัวไม่มีสาเหตุ ปวดหลัง ท้องอืด โรคกระเพาะอาหารเฉียบพลัน แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ใจเต้นเร็วมากผิดปกติ ร่างกายซูบผอม อ่อนเพลีย ไม่มีแรงเหมือนปกติเหมือนคนที่หมดแรง เรียกได้ว่าเป็นภาษาของร่างกายที่เกิดจากความเครียด

4. เบื่ออาหาร ไม่อยากกินอะไรเลยจนน้ำหนักลดลงอยากรวดเร็ว แม้กระทั่งอาหารที่ตนชอบก็รู้สึกไม่อยากกินหรือกินได้น้อยมากๆ หรือกินมากขึ้นอย่างหยุดไม่ได้จนน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว ควบคุมพฤติกรรมการกินไม่ได้

5. อยู่ๆ ก็ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถที่จะจดจ่อกับสิ่งที่ต้องทำได้ตามปกติ ความสามารถในการคิดหรืออ่านลดลง ตัดสินใจในเรื่องที่ธรรมดายังทำไม่ได้ ขาดความมั่นใจและการตัดสินใจที่เคยเด็ดขาด

6. มีพฤติกรรมที่หุนหันพลันแล่น มั่นใจในตัวเองมากจนเกินไป มีอารมณ์ครึกครื้น ไม่อยากนอน มีพลังงานสูงมากเกินกว่าปกติ พูดเร็ว ทำเร็ว ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ใช้เงินแบบไม่คิด

7. มีอารมณ์ที่ค่อนข้างจะซึมเศร้า คิดว่าตนเองนั้นไร้ค่า สะเทือนใจง่าย ร้องไห้ง่าย อารมณ์อ่อนไหวง่าย คิดว่าตัวเองเป็นภาระ มีอาการท้อและตำหนิตนเองตลอดเวลา หมดความสนใจในสิ่งที่ตนเองนั้นเคยชอบ มองเห็นแต่ข้อเสียและผิดพลาดของตนเอง หรือแม้กระทั่งมีความคิดอยากจะตาย

หากมีอาการเหล่านี้ควรที่จะพบจิตแพทย์ทันทีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อสุดท้าย ตอนนี้ผู้เขียนข้อตัวไปพบจิตแพทย์ก่อนนะเหมือนจะครบทุกข้อเลยทีเดียว