เอนเนดี แมสซิฟศิลปะหินยุคก่อนประวัติศาสตร์

กว่าหลายล้านปี ลมและฝนได้หล่อหลอมให้เทือกเขาเอนเนดีในมุมตะวันออกเฉียงเหนืออันห่างไกลของชาดกลายเป็นที่ราบสูงอินเซลเบิร์ก ยอดแหลมโดดเดี่ยว และซุ้มโค้งสูงตระหง่านที่มีสีของรวงผึ้ง ในขณะเดียวกันผู้คนในยุคดึกดำบรรพ์ได้ตกแต่งภูมิทัศน์นี้ด้วยการวาดภาพและแกะสลักภาพนับพันลงบนหิน การเข้าถึงภูมิภาคนี้ต้องใช้ระยะทาง 1,000 กม.เป็นหลุมเป็นบ่อ

ใช้เวลาขับรถสี่วันจากเมืองหลวงเอ็นจาเมนาผ่านทะเลทรายซาฮารา เนื่องจากความห่างไกลอย่างที่สุดและความจริงที่ว่าชาดต้องทนทุกข์ทรมานกับการต่อสู้ เป็นเวลาหลายปี รวมถึงการรัฐประหาร การนองเลือดของกลุ่มชาติพันธุ์ และสงครามกับลิเบีย ทำให้เทือกเขาเอนเนดียังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด มีนักวิทยาศาสตร์เพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้าถึงภูมิประเทศที่เข้าไม่ถึงนี้ ซึ่งเชื่อว่า 75% ของเทือกเขานี้ยังไม่ได้รับการศึกษา ซึ่งทำให้บางคนระบุว่ามีการสำรวจน้อยกว่าด้านหลังของดวงจันทร์ ในปี พ.ศ. 2559 เอนเนดี ซึ่งมีขนาดพอๆ กับสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก หลังจากนั้นไม่นาน มันก็ถูกจัดให้เป็นเขตสงวนทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และอยู่ภายใต้การคุ้มครองขององค์กรอนุรักษ์แอฟริกันที่ไม่แสวงหากำไรอันมีชื่อเสียงอย่าง African Parks และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา การศึกษาทางโบราณคดีระยะยาวได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำแผนที่แหล่งศิลปะบนหินทั้งหมดเท่านั้น แต่ยังสำรวจพื้นดินโดยรอบเพื่อหาเซรามิกโบราณ เกสรพืช และกระดูกสัตว์ด้วย “เมื่อนักโบราณคดีชาวอิตาลีเพิ่งมาเยี่ยมชมสั้นๆ เขาพบชิ้นส่วนเครื่องปั้นดินเผาอายุ 7,000 ปีภายในครึ่งชั่วโมง